HOME          
 
  ข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด    
 

หมวด 5  สมาชิกและสมาชิกสมทบ

       
 

    ข้อ 32. สมาชิก  สมาชิกสหกรณ์คือ

  1. ผู้ลงชื่อขอจดทะเบียนสหกรณ์ และผู้ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้จะเป็นสมาชิกของสหกรณ์  และได้ชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือครบถ้วนแล้ว
  2. ผู้ได้รับเลือกเข้าเป็นสมาชิกตามข้อบังคับ และได้ชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือครบถ้วนแล้ว

     ข้อ 33. คุณสมบัติของสมาชิก  สมาชิกต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  1. เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
  2. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ
  3. ก. เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างประจำสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด หรือ
    ข. เป็นพนักงานครูเทศบาล ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้สอนประจำ หรือดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างประจำในสถานศึกษา  หรือในฝ่ายการศึกษา   หรือกองการศึกษาของเทศบาล หรือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด หรือ
    ค. เป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างประจำในสหกรณ์
    ง.  เป็นข้าราชการบำนาญซึ่งเคยรับราชการใน (3) ก หรือ ข
    (4)  เป็นผู้มีความประพฤติและมีนิสัยดีงาม
    (5) มิได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ยืมเงิน
    (6) มิเคยถูกให้ออกจากการเป็นสมาชิกของสหกรณ์นี้
                          ข้อ 34. การเข้าเป็นสมาชิก ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ต้องยื่นใบสมัครถึงสหกรณ์ตามแบบที่กำหนดไว้ โดยต้องมี ผู้บังคับบัญชาของผู้สมัครในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าข้าราชการระดับ 3 คนหนึ่งรับรอง แต่ถ้าผู้สมัครเป็นผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ข้าราชการระดับ 3 ก็ไม่ต้องมีผู้รับรอง
    เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนพิจารณา ปรากฏว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในข้อ 33 ทั้งเห็นเป็นการสมควรแล้ว ก็ให้รับเข้าเป็นสมาชิกได้แล้วเสนอเรื่องการรับสมาชิกเข้าใหม่ให้ที่ประชุมใหญ่คราวถัดไปทราบ    ถ้าคณะกรรมการดำเนินการไม่รับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม เมื่อผู้สมัครร้องขอ ก็ให้คณะกรรมการดำเนินการนำเรื่องเสนอที่ประชุมใหญ่เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด มติแห่งที่ประชุมใหญ่ให้รับเข้าเป็นสมาชิกในกรณีดังว่านี้ ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามแห่งจำนวนสมาชิกที่มาประชุม

     ข้อ 35. สมาชิกสมทบ สหกรณ์อาจเปิดรับสมาชิกสมทบได้ตามที่เห็นสมควร

    ข้อ 36. คุณสมบัติของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
(1) เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
(2) เป็นผู้ศรัทธาในระบบสหกรณ์ และประสงค์จะเข้าร่วมกิจกรรมกับสหกรณ์
(3) เป็นบุตร คู่สมรส หรือบิดามารดาของสมาชิก
(4) มิได้เป็นสมาชิกของสหกรณ์และสหกรณ์อื่น

     ข้อ 37. การสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบ ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครโดยให้สมาชิกซึ่งทำงานในเขตเดียวกันรับรองอย่างน้อยสองคน แล้วจึงผ่านให้ผู้บังคับบัญชาของผู้สมัครตามข้อบังคับ                                                              

    ข้อ 38. ค่าธรรมเนียมแรกเข้า    ผู้เข้าเป็นสมาชิก  หรือสมาชิกสมทบจะต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าให้แก่
สหกรณ์คนละหนึ่งร้อยบาท  ค่าธรรมเนียมแรกเข้านี้  ให้ถือเป็นรายได้ของสหกรณ์และจะเรียกคืนไม่ได้
ในสภาวะการที่เหมาะสมสหกรณ์อาจยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าแก่สมาชิกสมทบก็ได้

     ข้อ 39. การได้สิทธิในฐานะสมาชิก ผู้เข้าเป็นสมาชิกต้องลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิก กับชำระค่าธรรมเนียม
แรกเข้าและชำระค่าหุ้นตามข้อบังคับของสหกรณ์ให้เสร็จภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด  เมื่อได้ปฏิบัติดังนี้แล้วจึงจะถือว่าได้สิทธิในฐานะสมาชิก
   สมาชิกสมทบนั้นอาจได้สิทธิในฐานะสมาชิกสมทบในการถือหุ้น  ฝากเงิน  เงินกู้ การค้ำประกัน  โดยมีหลักทรัพย์ที่มีฐานะมั่นคงเป็นประกันที่สหกรณ์กำหนด เว้นแต่สิทธิในการนับชื่อของสมาชิกสมทบเข้าเป็นองค์ประชุมในการประชุมใหญ่ การออกเสียงในเรื่องใด ๆ หรือเป็นกรรมการดำเนินการของสหกรณ์
   สมาชิกหรือสมาชิกสมทบต้อง  ปฏิบัติตามกฎหมาย  ข้อบังคับ  ระเบียบ   และมติของสหกรณ์สำหรับสมาชิกแต่ละประเภททุกประการ
   สิทธิของสมาชิกหรือสมาชิกสมทบในครอบครัว  เกียรติยศ  ชื่อเสียง  หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง
   การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของสมาชิกหรือสมาชิกสมทบในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวจะกระทำมิได้
เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

      ข้อ 40. การโอนสมาชิกระหว่างสหกรณ์     สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งย้าย โอน หรือเข้ามาสังกัดในหน่วยงานใหม่  และมีคุณสมบัติตามข้อ 33 (3) ถ้าสมาชิกนั้นมีความประสงค์จะให้โอนเงินค่าหุ้น เงินกู้ที่มีอยู่ในสหกรณ์เดิมมายังสหกรณ์ที่ตนได้เข้าเป็นสมาชิกใหม่ ให้ยื่นความจำนงเป็นหนังสือขอโอนต่อสหกรณ์ ตามแบบที่กำหนด ให้สหกรณ์ดำเนินการโอนสมาชิกภาพให้เสร็จสิ้นไป


    ข้อ 41.  การเปลี่ยนแปลงสถานภาพหรือภูมิลำเนา    สมาชิกหรือสมาชิกสมทบคนใดเปลี่ยนแปลง    สถานภาพและหรือภูมิลำเนา  ต้องแจ้งให้สหกรณ์ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง                                                                       
    ข้อ 42.  การตั้งผู้รับโอนประโยชน์    สมาชิกอาจทำเป็นหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคน ให้เป็นผู้รับโอนประโยชน์ซึ่งตนมีอยู่ในสหกรณ์ในเมื่อตนถึงแก่กรรม โดยมอบให้สหกรณ์ถือไว้ก็ได้  หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์ดังว่านี้ให้ทำตามลักษณะพินัยกรรมโดยอนุโลม
   ถ้าสมาชิกประสงค์จะเพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงการตั้งผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้กำหนดและมอบไว้กับสหกรณ์แล้ว ให้ทำเป็นหนังสือตามลักษณะดังกล่าวในวรรคหนึ่งมอบให้สหกรณ์ถือไว้แทนฉบับเดิม
   เมื่อสมาชิกตาย  สหกรณ์จะจ่ายค่าหุ้น เงินรับฝาก เงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน และดอกเบี้ยบรรดาที่สมาชิกนั้นมีอยู่ในสหกรณ์คืนให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้ตั้งไว้   หรือถ้ามิได้ตั้งไว้   ก็คืนให้แก่บุคคลที่ได้นำหลักฐานมาแสดง ต่อคณะกรรมการดำเนินการ  ว่าเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินจำนวนดังกล่าวนั้น   ทั้งนี้ตามข้อกำหนดในข้อ 48 วรรคแรก และ ข้อ 49

      ข้อ 43. การขาดจากสมาชิกภาพ   สมาชิกย่อมขาดจากสมาชิกภาพเพราะเหตุใด ๆ ดังต่อไปนี้
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(4) เป็นบุคคลล้มละลาย
(5) ถูกออกจากราชการ หรืองานประจำตามข้อ 33 (3) โดยมีความผิด
(6) ถูกให้ออกจากสหกรณ์


   ข้อ 44.  การลาออกจากสหกรณ์    สมาชิกผู้ไม่มีหนี้สินอยู่ต่อสหกรณ์ในฐานะผู้กู้ หรือผู้ค้ำประกัน อาจลาออกจากสหกรณ์ได้โดยแสดงความจำนงเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการดำเนินการ   และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการ ได้สอบสวนพิจารณาเห็นว่าเป็นการชอบด้วยข้อบังคับแล้ว  จึงอนุญาตให้ลาออกจากสหกรณ์ได้
   คณะกรรมการดำเนินการอาจมอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยการ หรือประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการ  หรือกรรมการ หรือผู้จัดการสอบสวนพิจารณา หากเห็นว่าเป็นการชอบด้วยข้อบังคับก็ให้ถือว่าลาออกจากสหกรณ์ตามความในวรรคหนึ่งได้ แล้วให้เสนอคณะกรรมการดำเนินการทราบ ในการประชุมคราวถัดไป

    ข้อ 45. การให้ออกจากสหกรณ์   สมาชิกอาจถูกให้ออกจากสหกรณ์เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง  ดังต่อไปนี้
(1) ไม่ลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิก หรือไม่ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือไม่ถือหุ้นครั้งแรกตามข้อ 6
(2) ผิดนัดการส่งเงินค่าหุ้นรายเดือนถึงสามงวดติดต่อกัน  หรือผิดนัดการส่งรวมถึงหกงวดทั้งนี้ โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการดำเนินการ
(3) นำเงินกู้ไปใช้ผิดความมุ่งหมายที่ให้เงินกู้นั้น
(4) ไม่จัดการแก้ไขหลักประกันสำหรับเงินกู้ที่เกิดบกพร่อง ให้คืนดีภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด                                                 
(5) ผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ ไม่ว่าเงินต้น หรือดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลาถึงสองงวด หรือผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ดังว่านั้นถึงสามคราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่ง ๆ
(6) ไม่ให้ข้อความจริงเกี่ยวกับหนี้สินของตนแก่สหกรณ ์เมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือเมื่อจะก่อภาระผูกพันในหนี้สินต่อสหกรณ์ในฐานะผู้กู้ หรือผู้ค้ำประกัน หรือเมื่อมีภาระผูกพันในหนี้สินต่อสหกรณ์อยู่แล้ว
(7) จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย  ข้อบังคับ  ระเบียบ  มติของสหกรณ์ หรือมีพฤติการณ์ใด ๆ อันเป็นเหตุที่เชื่อได้ว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสหกรณ์ไม่ว่าโดยประการใด ๆ
   เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนและพิจารณาแล้ว ปรากฎข้อเท็จจริงว่า สมาชิกมีพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวข้างต้นจริง   และได้ลงมติให้สมาชิกออก โดยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามแห่งจำนวนกรรมการดำเนินการที่อยู่ในที่ประชุมแล้ว ก็เป็นอันถือว่าสมาชิกนั้นถูกให้ออกจากสหกรณ์
    สมาชิกที่ถูกให้ออกจากสหกรณ์มีสิทธิอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ โดยให้ยื่นคำอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการดำเนินการ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบมติของคณะกรรมการดำเนินการ  คำวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่ให้เป็นที่สุด

     ข้อ 46. การถอนชื่อสมาชิกออกจากทะเบียนสมาชิก  ในกรณีที่สมาชิกออกจากสหกรณ์ไม่ว่าเพราะเหตุใด  ๆ ให้คณะกรรมการดำเนินการถอนชื่อสมาชิกออกจากทะเบียนสมาชิก

     ข้อ 47. สมาชิกที่โอน หรือย้าย หรือออกจากราชการ หรืองานประจำโดยไม่มีความผิด สมาชิกที่โอน หรือย้าย หรือออกจากราชการ หรืองานประจำตามข้อ 33 (3) โดยไม่มีความผิด ถ้ามิได้ลาออกจากสหกรณ์ ให้ถือว่าคงเป็นสมาชิกอยู่ และจะงดชำระค่าหุ้นได้ก็ต่อเมื่อมีหนี้สินไม่เกินค่าหุ้น  โดยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการดำเนินการ และอาจกู้เงินได้ตามระเบียบของสหกรณ์

     ข้อ 48. การจ่ายคืนจำนวนเงินของสมาชิกที่ขาดจากสมาชิกภาพ  สหกรณ์จะจ่ายคืนจำนวนเงินให้ดังนี้

  1. ในกรณีที่สมาชิกขาดจากสมาชิกภาพเพราะเหตุตามข้อ 43(1),(2),(3) ให้สหกรณ์จ่ายเงินค่าหุ้น  เงินปันผล เงินเฉลี่ยคืนค้างจ่าย   และบรรดาเงินที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์ให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับ สำหรับเงินค่าหุ้นนั้นผู้มีสิทธิได้รับ จะเรียกให้สหกรณ์จ่ายคืนทันที โดยไม่มีเงินปันผล และหรือเงินเฉลี่ยคืนสำหรับปีที่ออกนั้น หรือจะเรียกให้จ่ายคืนหลังจากวันสิ้นปีทางบัญชีที่ออก โดยมีเงินปันผล และหรือเงินเฉลี่ยคืนสำหรับปีที่ออกนั้นก็ได้สุด แต่จะเลือก ในกรณีหลังนี้ สหกรณ์จะจ่ายเงินให้หลังจากวันที่ที่ประชุมใหญ่ ได้พิจารณาจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีแล้ว
  2. ถ้าในปีใด จำนวนเงินค่าหุ้นที่ต้องจ่ายคืน เนื่องจากสมาชิกขาดจากสมาชิกภาพ มีจำนวนเกินร้อยละสิบแห่งทุนเรือนหุ้นที่มีอยู่ในวันต้นปีนั้น  คณะกรรมการดำเนินการมีอำนาจ ให้รอการจ่ายคืนเงินค่าหุ้นของสมาชิกที่ขาดจากสมาชิกภาพรายถัดไปในปีนั้นจนกว่าถึงปีทางบัญชีใหม่ได้
  3. การจ่ายคืนเงินฝากและดอกเบี้ย สหกรณ์จะจ่ายคืนให้ตามระเบียบของสหกรณ์
  4. ในกรณีที่ขาดสมาชิกภาพตามข้อ 43(4) สหกรณ์จะจ่ายเงินค่าหุ้น เงินรับฝาก เงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนกับดอกเบี้ยค้างจ่ายและบรรดาเงินที่สมาชิกนั้นมีอยู่ในสหกรณ์ คืนให้ตามกฎหมายล้มละลาย
  5. ในกรณีที่ขาดสมาชิกภาพตามข้อ 43 (5) และ (6) สหกรณ์จะจ่ายเงินค่าหุ้น เงินปันผล และเงินเฉลี่ยคืนกับดอกเบี้ยค้างจ่าย และบรรดาเงินที่สมาชิกนั้นมีอยู่ในสหกรณ์ คืนให้ภายในเวลาอันสมควรตามที่กำหนด (1) (2) และ(3)

     ข้อ 49. การหักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์ ในการจ่ายคืนจำนวนเงินดังกล่าวใน ข้อ 48 นั้น ให้สหกรณ์หักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์ออกก่อน

     ข้อ 50. การใช้ข้อบังคับแก่สมาชิกสมทบ ให้นำความตามข้อบังคับ ข้อ 6 เรื่องการถือหุ้น ข้อ 41 เรื่องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ หรือภูมิลำเนา ข้อ 42 เรื่องการตั้งผู้รับโอนประโยชน์ ข้อ 43 เรื่องการขาดจากสมาชิกภาพ ข้อ 44 เรื่องการลาออกจากสหกรณ์ ข้อ 45 เรื่องการให้ออกจากสหกรณ์ ข้อ 46 เรื่องการถอนชื่อสมาชิกออกจากทะเบียนสมาชิก ข้อ 48 เรื่องการจ่ายคืนจำนวนเงินของสมาชิกที่ขาดจากสมาชิกภาพ และข้อ 49 เรื่องการหักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์ มาใช้บังคับแก่สมาชิกสมทบโดยอนุโลม

     ข้อ 51. ความรับผิดของสมาชิกหรือสมาชิกสมทบ สมาชิกหรือสมาชิกสมทบต้องรับผิด เพื่อหนี้สินของสหกรณ์จำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้น ที่ยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าหุ้นที่ตนถือ