ข้อ 10. การลงลายมือชื่อแทนสหกรณ์ เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นตามข้อบังคับนี้ การลงลายมือชื่อเพื่อให้มีผลผูกพันสหกรณ์ ให้ปฏิบัติดังนี้
(1) หนังสือกู้ยืมซึ่งสหกรณ์เป็นผู้กู้ยืม ตลอดจนการเบิก หรือรับเงินกู้ การจำนอง ซึ่งสหกรณ์เป็นจำนอง
การถอนเงินฝากของสหกรณ์ และในนิติกรรมอื่น ๆ จะต้องลงลายมือชื่อของประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการ หรือเลขานุการ หรือเหรัญญิก หรือผู้จัดการ รวมเป็นสองคน
(2) การรับฝากเงิน ใบรับเงินและเอกสารทั้งปวงนอกจากที่กล่าวไว้ใน (1) จะต้องลงลายมือชื่อของผู้จัดการ และหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
อนึ่ง ในหนังสือกู้ยืมซึ่งสหกรณ์เป็นผู้กู้ยืม เช็ค ใบสั่งจ่ายเงิน ใบรับเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตราสารการเงินของสหกรณ์นั้น ต้องประทับตราของสหกรณ์เป็นสำคัญด้วย
ข้อ 11. วงเงินกู้ยืมหรือการค้ำประกัน ที่ประชุมใหญ่อาจกำหนดวงเงินกู้ยืม หรือการค้ำประกันสำหรับปีหนึ่ง ๆ ไว้ตามที่จำเป็นและสมควรแก่การดำเนินงาน วงเงินซึ่งกำหนดดังว่านี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายะเบียนสหกรณ์
ถ้าที่ประชุมใหญ่ยังมิได้กำหนด หรือนายทะเบียนสหกรณ์ยังมิได้ให้ความเห็นชอบวงเงินกู้ยืม หรือการค้ำประกันสำหรับปีใด ก็ให้ใช้วงเงินกู้ยืม หรือวงเงินสินเชื่อหรือการค้ำประกันสำหรับปีก่อนไปพลาง
ข้อ 12. การกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกัน สหกรณ์อาจกู้ยืมเงิน หรือออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตราสารการเงิน หรือโดยวิธีอื่นใด สำหรับใช้เป็นทุนดำเนินงานหรือการอื่นใดตามวัตถุประสงค์ได้ ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร ทั้งนี้ จะต้องอยู่ภายในวงเงินกู้ยืมหรือวงเงินสินเชื่อหรือการค้ำประกันระจำปีตามข้อ 11
ข้อ 13. การรับฝากเงิน สหกรณ์อาจรับฝากเงินประเภทออมทรัพย์ หรือประเภทประจำจากสมาชิกหรือสมาชิกสมทบ หรือสหกรณ์อื่นได้ตามระเบียบที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับฝาก ดอกเบี้ย การถอนเงินฝาก และอื่น ๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในระเบียบของสหกรณ์ให้สหกรณ์ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
ข้อ 14. การให้เงินกู้ สหกรณ์อาจให้เงินกู้ แก่
(1) สมาชิกหรือสมาชิกสมทบของสหกรณ์
(2) สหกรณ์อื่น
การให้เงินกู้แก่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบนั้น ให้คณะกรรมการดำเนินการมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยให้เงินกู้ได้ตามข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์
ข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาวินิจฉัยให้เงินกู้ หลักประกันสำหรับเงินกู้ ลำดับแห่งการให้เงินกู้ เงินงวดชำระหนี้สำหรับเงินกู้และอื่น ๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในระเบียบของสหกรณ์
การให้เงินกู้แก่สมาชิกสมทบหรือสหกรณ์อื่นนั้น คณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณาให้กู้ได้ต่อเมื่อสหกรณ์มีเงินทุนเหลือจากการให้เงินกู้แก่สมาชิกแล้ว ตามระเบียบของสหกรณ์ที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์
สมาชิก หรือสมาชิกสมทบ หรือสหกรณ์อื่นซึ่งประสงค์จะขอกู้เงินจากสหกรณ์นี้ ต้องเสนอคำขอกู้เงินตามแบบและวิธีการที่กำหนดในระเบียบของสหกรณ์
ข้อ 15. ความมุ่งหมายแห่งเงินกู้ เงินกู้ซึ่งให้แก่สมาชิก หรือสมาชิกสมทบไม่ว่าประเภทใด ๆ จะให้ได้แต่เฉพาะเพื่อการอันจำเป็นหรือเป็นประโยชน์ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร
ให้คณะกรรมการดำเนินการสอดส่อง และกวดขันการใช้เงินกู้ของสมาชิก หรือสมาชิกสมทบให้ตรงตามความมุ่งหมายที่ให้เงินกู้นั้น
ข้อ 16. ประเภทแห่งเงินกู้ สหกรณ์อาจให้เงินกู้แก่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบ ได้ตามประเภทดังต่อไปนี้
(1) เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน ในกรณีที่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบ มีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุอันจำเป็นรีบด่วน และมีความประสงค์ขอกู้เงิน คณะกรรมการดำเนินการอาจให้เงินกู้เพื่อเหตุนั้นได้ตามระเบียบของสหกรณ์
(2) เงินกู้สามัญ ในกรณีที่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบ มีความประสงค์ขอกู้เงินสำหรับใช้จ่ายเงิน เพื่อการอันจำเป็น หรือมีประโยชน์ต่าง ๆ คณะกรรมการดำเนินการอาจพิจารณาให้เงินกู้สามัญแก่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบนั้นได้ตามระเบียบของสหกรณ์
(3) เงินกู้พิเศษ เมื่อสหกรณ์มีฐานะการเงินก้าวหน้าพอที่จะช่วยเหลือให้เงินกู้ เพื่อส่งเสริมฐานะ ความมั่นคงหรือเพื่อการเคหะหรือก่อประโยชน์งอกเงยแก่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบได้ คณะกรรมการดำเนินการอาจให้เงินกู้พิเศษแก่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบได้ตามที่เห็นสมควร โดยผู้ขอกู้ต้องระบุความมุ่งหมายแต่ละอย่างของเงินกู้ประเภทนี้ ตลอดจนเงื่อนไขและวิธีการ และต้องมีหลักประกันตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์
การให้เงินกู้แก่สมาชิกหรือสิทธิอื่น ๆ สหกรณ์ต้องให้ความสำคัญลำดับแรก หากสหกรณ์มีเงินเหลืออาจให้เงิน กู้แก่สมาชิกสมทบหรือสหกรณ์อื่นได้ตามความเหมาะสม
การให้เงินกู้แก่สมาชิกสมทบนั้น จะต้องมีทุนเรือนหุ้นและเงินรับฝากและหลักทรัพย์รัฐบาลและหลักทรัพย์ รัฐสาหกิจและหลักทรัพย์อื่นที่มีฐานะมั่นคงเท่านั้นเป็นหลักประกัน
ข้อ 17. ดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์เรียกดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทที่ให้แก่สมาชิกหรือสมาชิกสมทบหรือแก่สหกรณ์อื่น ในอัตราตามที่กำหนดในระเบียบของสหกรณ์
ข้อ 18. การควบคุมหลักประกันและการเรียกคืนเงินกู้ ให้คณะกรรมการดำเนินการตรวจตราควบคุมให้เงินกู้ทุกรายมีหลักประกันตามที่กำหนดในระเบียบของสหกรณ์ และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการเห็นว่าหลักประกันสำหรับเงินกู้รายใดเกิดบกพร่อง ผู้กู้จะต้องจัดการแก้ไขให้คืนดีภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด
ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเงินกู้ประเภทใด ๆ เป็นอันถึงกำหนดชำระคืนโดยสิ้นเชิง พร้อมทั้งดอกเบี้ยในทันทีโดยมิพักต้องคำนึงถึงกำหนดเวลาที่ให้ไว้และให้คณะกรรมการดำเนินการจัดการเรียกคืนโดยมิชักช้า
(1) เมื่อสมาชิกหรือสมาชิกสมทบผู้กู้ออกจากสหกรณ์ไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ
(2) เมื่อปรากฎต่อคณะกรรมการดำเนินการว่าผู้กู้นำเงินกู้ไปใช้ผิดความมุ่งหมายที่ให้เงินกู้นั้น
(3) เมื่อคณะกรรมการดำเนินการ เห็นว่าหลักประกันสำหรับเงินกู้รายใดเกิดบกพร่องและผู้กู้มิได้จัดการแก้ไขให้คืนดีภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด
(4) เมื่อสมาชิกหรือสมาชิกสมทบผู้กู้ค้างชำระเงินงวดชำระหนี้ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยเป็นเวลาถึงสองงวดติดต่อกัน หรือผิดนัดการชำระเงินงวดชำระหนี้ดังว่านั้นถึงสามคราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่ง ๆ
ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชำระหนี้แทนผู้กู้เพราะเหตุใด ๆ ตามวรรคสองและไม่สามารถชำระหนี้นั้นโดยสิ้นเชิงได้ เมื่อผู้ค้ำประกันร้องขอ คณะกรรมการดำเนินการอาจผ่อนผันให้ผู้ค้ำประกันชำระเป็นงวดรายเดือนจนครบจำนวนเงินตามที่ผู้กู้ได้ทำหนังสือกู้ให้ไว้ต่อสหกรณ์ก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินจำนวนงวดสำหรับเงินกู้ประเภทนั้น ๆ
ข้อ 19. ความผูกพันของผู้กู้หรือและผู้ค้ำประกัน ผู้กู้ หรือผู้ค้ำประกันต้องรับผูกพันว่า ถ้าตนประสงค์จะขอโอนหรือย้าย หรือลาออกจากราชการหรืองานประจำตามข้อ 33(3) จะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สหกรณ์ทราบ
และจัดการชำระหนี้สินซึ่งตนมีอยู่ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เว้นแต่ในกรณีที่ยังคงเป็นสมาชิกอยู่ตามข้อ 47
ข้อ 20. การฝากหรือการลงทุนของสหกรณ์ เงินของสหกรณ์นั้นสหกรณ์อาจฝากหรือลงทุนได้ตามที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ และภายใต้กฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ โดยให้คำนึงถึงความมั่นคงและประโยชน์สูงสุดที่สหกรณ์หรือสมาชิกจะได้รับ
ข้อ 21. การบัญชีและงบดุลของสหกรณ์ ให้สหกรณ์จัดทำบัญชีตามแบบและรายการที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด ให้ถูกต้องตามความเป็นจริงและเก็บรักษาบัญชี พร้อมด้วยเอกสารการลงบัญชีไว้ที่สำนักงานสหกรณ์เป็นระยะเวลาตามที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด
การบันทึกรายการในบัญชีเกี่ยวกับกระแสเงินสด ให้บันทึกรายการในวันเกิดเหตุนั้น สำหรับเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับกระแสเงินสด ให้บันทึกรายการในสมุดบัญชีภายในสามวัน นับแต่วันที่มีเหตุอันจะต้องบันทึกรายการนั้นและการลงบัญชีต้องมีเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สมบูรณ์โดยครบถ้วน
เมื่อสิ้นปีทางบัญชีทุกปี ให้สหกรณ์จัดทำงบดุลซึ่งต้องมีรายการแสดง สินทรัพย์ หนี้สินและทุนของสหกรณ์ รวมทั้งงบกำไรขาดทุนและงบอื่น ๆ ตามแบบที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด
ข้อ 22. ปีทางบัญชีของสหกรณ์ ปีทางบัญชีของสหกรณ์มีระยะเวลาสิบสองเดือน โดยให้สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี
ข้อ 23. การเสนองบดุลต่อที่ประชุมใหญ่ ให้คณะกรรมการดำเนินการเสนองบดุลซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและรับรองแล้วต่อที่ประชุมใหญ่ เพื่อพิจารณาอนุมัติภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวัน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี
ให้คณะกรรมการดำเนินการเสนอรายงานประจำปี แสดงผลการดำเนินงานของสหกรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่สามัญในคราวที่เสนองบดุลด้วย
ให้สหกรณ์ส่งสำเนางบดุลที่จะเสนอต่อที่ประชุมใหญ่นั้นไปยังสมาชิก และให้ปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานของสหกรณ์ก่อนวันประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ให้สหกรณ์ส่งสำเนารายงานประจำปี แสดงผลการดำเนินงานของสหกรณ์กับงบดุลไปยังนายทะเบียนสหกรณ์ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่
อนึ่ง ให้สหกรณ์เก็บรักษารายงานประจำปี แสดงผลการดำเนินงานของสหกรณ์กับงบดุล ไว้ที่สำนักงานของสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกและสมาชิกสมทบขอตรวจดูได้
ข้อ 24. การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี เมื่อสิ้นปีทางบัญชีและได้ปิดบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปแล้ว ปรากฎว่าสหกรณ์มีกำไรสุทธิ ให้ที่ประชุมใหญ่จัดสรรเป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของกำไรสุทธิ และเป็นค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยไม่เกินร้อยละห้าของกำไรสุทธิ แต่ต้องไม่เกินอัตราคณะกรรมการวัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติกำหนด
กำไรสุทธิประจำปีที่เหลือจากการจัดสรรตามความในวรรคหนึ่ง ที่ประชุมใหญ่อาจจะจัดสรรได้ดังต่อไปนี้
(1) เป็นเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้วให้แก่สมาชิกแต่ละคน ในอัตราไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยคิดให้ตามส่วนแห่งระยะเวลา อนึ่ง ถ้าสหกรณ์ถอนทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผล ตาม (4) ออกจ่ายเป็นเงินปันผลสำหรับปีใดด้วย จำนวนเงินปันผลทั้งสิ้นที่จ่ายสำหรับปีนั้นต้องไม่เกินอัตราดังกล่าวด้วย ในการคำนวณเงินปันผลตามหุ้น ให้ถือว่าหุ้นที่สมาชิกได้ชำระต่อสหกรณ์ภายในวันที่ห้าของเดือน มีระยะเวลา สำหรับคำนวณเงินปันผลตั้งแต่เดือนนั้น ส่วนหุ้นที่สมาชิกชำระต่อสหกรณ์หลังวันที่ห้าของเดือน สหกรณ์จะคิดเงินปันผลให้ตั้งแต่เดือนถัดไป
(2) เป็นเงินเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกตามส่วนจำนวนรวมแห่งดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งสมาชิกได้ชำระแก่สหกรณ์ในระหว่างปี แต่สมาชิกที่ผิดนัดการชำระเงินงวดชำระหนี้ ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยในปีใด มิให้ได้รับเงินเฉลี่ยคืนสำหรับปีนั้น
(3) เป็นเงินโบนัสแก่กรรมการและเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ ไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิ
(4) เป็นทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผล ไม่เกินร้อยละสองแห่งทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ตามที่มีอยู่ในวันสิ้นปีนั้น ทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผลนี้จะถอนได้โดยมติแห่งที่ประชุมใหญ่ เพื่อจ่ายเป็นเงินปันผลตามหุ้น ตาม (1)
(5) เป็นทุนเพื่อการศึกษาอบรมทางสหกรณ์ไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิตามระเบียบของสหกรณ์
(6) เป็นทุนสาธารณประโยชน์ไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิ ตามระเบียบของสหกรณ์
(7) เป็นทุนสวัสดิการ หรือการสงเคราะห์ตามสมควรแก่สมาชิกและครอบครัว สมาชิกสมทบไม่เกินร้อยละสิบ
ของกำไรสุทธิ ตามระเบียบของสหกรณ์
(8) เป็นทุนเพื่อจัดตั้งสำนักงานหรือทุนอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่สหกรณ์
(9) กำไรสุทธิส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) ให้สมทบเป็นทุนสำรองทั้งสิ้น
ข้อ 25. ที่มาแห่งทุนสำรอง ทุนสำรองนั้นนอกจากจัดสรรจากกำไรสุทธิตามข้อ 24 แล้ว บรรดาเงินอุดหนุน หรือทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้แก่สหกรณ์ ถ้าผู้ยกให้มิได้ระบุว่าให้ใช้เพื่อการใดโดยเฉพาะ ก็ให้จัดสรรเป็นทุนสำรองทั้งสิ้น
อนึ่ง จำนวนเงินซึ่งสหกรณ์พึงจ่ายแก่บุคคลใดก็ตาม ถ้าไม่มีผู้ใดใช้สิทธิเรียกร้องจนพ้นกำหนดอายุความ ก็ให้จัดสรรเงินจำนวนนั้นเป็นทุนสำรอง
*** กำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการเสนอแนะให้ที่ประชุมจัดสรร ตามข้อ 24 หากที่ประชุมใหญ่พิจารณาแล้วเห็นว่า รายการใดไม่สมควรจัดสรรหรือตัดจำนวนให้น้อยลงก็ดี ยอดเงินจำนวนดังกล่าวให้ดำเนินการตามมติที่ประชุมใหญ่
ข้อ 26. สภาพแห่งทุนสำรอง ทุนสำรองย่อมเป็นของสหกรณ์โดยส่วนรวม สมาชิกจะแบ่งปันกันไม่ได้ หรือจะเรียกร้องแม้ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ไม่ได้
ทุนสำรองจะถอนได้ก็แต่เพื่อชดเชยการขาดทุนอันหากบังเกิดขึ้น หรือเพื่อจัดสรรเข้าบัญชีทุนสำรองให้แก่สหกรณ์ใหม่ที่ได้จดทะเบียนแยกจากสหกรณ์เดิม
*** นายทะเบียนสหกรณ์ได้รับจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1 ) พ.ศ. 2546 ไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2546
ข้อ 27. ทะเบียนและบัญชี ให้สหกรณ์มีทะเบียนสมาชิก ทะเบียนหุ้น และทะเบียนอื่น ๆ ตลอดจนสมุดรายงานการประชุม และบัญชีตามแบบที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด และตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควรให้มีขึ้น
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการในทะเบียนสมาชิกหรือทะเบียนหุ้น ให้สหกรณ์แจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อนายทะเบียนสหกรณ์ภายในสามสิบวัน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์
สมาชิกอาจขอตรวจดูเอกสารดังกล่าวในวรรคก่อนได้ ณ สำนักงานของสหกรณ์ ในระหว่างเวลาทำงาน แต่จะดูบัญชีหรือทะเบียนเกี่ยวกับเงินค่าหุ้น เงินฝาก หรือเงินกู้ของสมาชิกรายอื่นไม่ได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือของสมาชิกนั้น และได้รับอนุญาตจากผู้จัดการก่อน
ข้อ 28. กฎหมายและข้อบังคับ เอกสารอื่น ๆ ให้สหกรณ์เก็บรักษารายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินการของสหกรณ์และงบดุล พร้อมทั้งข้อบังคับและกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ไว้ที่สำนักงานของสหกรณ์เพื่อให้สมาชิกขอตรวจดูได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
ข้อ 29. การสอบบัญชี บัญชีของสหกรณ์นั้น ต้องได้รับการตรวจสอบบัญชีอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งโดยผู้สอบบัญชีซึ่งนายทะเบียนสหกรณ์แต่งตั้ง
ข้อ 30. การกำกับดูแลสหกรณ์ นายทะเบียนสหกรณ์ รองนายทะเบียนสหกรณ์ ผู้ตรวจการสหกรณ์หรือผู้สอบบัญชีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งนายทะเบียนสหกรณ์มอบหมาย มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้คณะกรรมการดำเนินการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่หรือเชิญสมาชิกของสหกรณ์มาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์ หรือให้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินงาน หรือรายงานการประชุมของสหกรณ์ได้
ให้ผู้ปฏิบัติการตามวรรคหนึ่งมีอำนาจเข้าไปตรวจสอบในสำนักงานของสหกรณ์ ในระหว่างเวลาทำงานของสหกรณ์ได้ ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกหรือช่วยเหลือ หรือให้คำชี้แจงแก่ผู้ปฏิบัติการตามสมควร
ข้อ 31 การส่งรายการหรือรายงาน ให้สหกรณ์ส่งรายการ หรือรายงานเกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์ต่อชุมนุมสหกรณ์ที่สหกรณ์เป็นสมาชิก หรือหน่วยงานที่กำกับดูแล ตามแบบ และระยะเวลาที่หน่วยงานนั้นกำหนด |